กรมควบคุมโรคเผยไข้เลือดออกระบาดยอดผู้ป่วยทะลุ1.3หมื่นคน
กรมควบคุมโรค
เตือนผู้ปกครองและอาจารย์ในโรงเรียนดูแลเด็กอย่างใกล้ชิดในช่วงเปิดเทอมนี้
หลังพบยอดผู้ป่วยไข้เลือดออกจำนวน 13,973 ราย เสียชีวิตแล้วจำนวน 17
ราย จำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์
โดยเฉพาะภาคกลางและภาคใต้ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ เหตุจำนวนผู้ป่วย 2
ภาค นี้ รวมกันเกือบ 10,000 รายแล้ว
นพ.ประพนธ์ ตั้งศรีเกียรติกุล รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า
สถานการณ์โรคไข้เลือดออกในประเทศไทยมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
จากข้อมูลสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. - 4 พ.ค.
2553 (ข้อมูลจากรายงานสำนักระบาย วิทยา ณ วันที่ 4 พ.ค.2553)
มีผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกสะสมรวม จำนวน 13,973 รายคิดเป็นอัตราป่วย
22.00 ต่อประชากรแสนคนผู้ป่วยตายจำนวน 17 ราย อัตราป่วยตาย ร้อยละ 0.12
เมื่อแยกเป็นรายภาคพบว่าภาคกลาง พบจำนวนผู้ป่วยมากที่สุด 6,843 ราย
คิดเป็นอัตราป่วย 31.91 ผู้ป่วยตาย 6 รายรองลงมา คือ ภาคใต้ พบผู้ป่วย
3,142 ราย คิดเป็นอัตราป่วย 35.65 ผู้ป่วยตาย 6 ราย
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พบผู้ป่วย 2,806 รายคิดเป็นอัตราป่วย 13.05
ผู้ป่วยตาย 2 ราย และภาคเหนือ พบผู้ป่วย 1,182 ราย คิดเป็นอัตราป่วย
10.4 ต่อแสนประชากร ผู้ป่วยตาย 3 ราย
ซึ่งต้องเฝ้าระวังภาคกลางและภาคใต้เป็นพิเศา เนื่องจากจำนวนผู้ป่วย 2
ภาคนี้ รวมกันเกือบ 10,000 รายแล้ว และผู้เสียชีวิตรวม 12 ราย
ส่วนในช่วงกลางเดือน พ.ค. โรงเรียนเปิดเทอมในเกือบทุกระดับ
ซึ่งอาจะเกิดการระบาดในกลุ่มนักเรียนและแนวโน้จำนวนผู้ป่วยจะสูงขึ้นมาก
โดยเฉพาะเป็นช่วงหน้าฝน จึงต้องเร่งดำเนินการป้องกันควบคุมโรค
เร่งรัดการรณรงค์ใน 3 มาตรการ ดังนี้
1.จัดการสิ่งแวดล้อมในบ้านและรอบบ้านไม่ให้มีภาชนะที่มีน้ำขังเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายซึ่งเป็นพาหนะสำคัญของโรคนี้
2.มาตรการในการควบคุมลูกน้ำยุงลาย เช่น ปิดฝาภาชนะที่มีน้ำขัง
เปลี่ยน้ำในภาชนะที่มีน้ำขัง อาทิ น้ำที่หล่อขาตู้กับข้าว แจกัน
กระถางต้นไม้ ทุก 7 วัน
และปล่อยปลาในแหล่งน้ำที่เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุง เป็นต้นและ
3.มาตรการในการกำจัดยุงลายตัวแก่ เช่น
การพ่นยากำจัดยุงตามสถานที่ต่างๆ
นพ.ประพนธ์ กล่าวต่อไปว่า
โรงเรียนถือว่าเป็นสถาบันที่มีบทบาทสำคัญที่จะช่วยในการป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออกในชุมชนและโรงเรียนของตนเอง
กิจกรรมที่โรงเรียนสามารถดำเนินงานเพื่อป้องกันโรคไข้เลือดอกได้ ดังนี้
1.จัดกิจกรรมการเรียนการสอนให้นักเรียนมีความรู้ความเข้ใจและตระหนักถึงภัยของโรคไข้เลือดออก
รู้จักวิธีป้องกันและแนะนำผู้ใกล้ชิดที่ป่วยเป็นโรคไข้เลือดออกได้
2.ทำให้โรงเรียนปลอดลูกน้ำและยุงลายโดยตรวจสอบและทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายและลูกน้ำยุงลาย
ทุกสัปดาห์
3.นักเรียนและผู้ปกครองต้องช่วยกันกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลายในชุมชน
หากพบผู้ป่วยมีอาการไข้สูง มีจุดเลือดออกตามตัว
หรือมีอาการคลื่นไส้อาเจียน ปวดท้อง ให้ไปพบแพทย์โดยเร็ว
อย่าซื้อยามารับประทานเองโดยเฉพาะยาแอสไพรินซึ่งจะทำให้เกิดภาวะเลือดออกง่าย
|